ศูนย์ศัลยกรรมหลอดเลือด

โรคทางด้านหลอดเลือดมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางด้านหลอดเลือด เช่น ไขมันในเลือดสูง, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ ทั้งนี้รวมถึงที่เลิกสูบบุหรี่ไปแล้วหรือขณะกำลังสูบบุหรี่อยู่ก็ตาม สาเหตุทั้งหมดเบื้องต้น จะนำไปสู่การเกิดโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบตัน เช่น เกิดแผลที่เท้าและแผลไม่หายจากการขาดเลือดมาเลี้ยงซึ่งมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียอวัยวะหรือถูกตัดขา, โรคหลอดเลือดแดงคาโรติดที่บริเวณคอตีบซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลัน และ โรคหลอดเลือดแดงโป่งพองในช่องท้องและช่องอก ซึ่งถ้าไม่มีการตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง จะเกิดภาวะหลอดเลือดแดงโป่งพองแตก หรือเกิดภาวะลิ่มเลือดในผนังหลอดเลือดแดงที่โป่งพองหลุดไปอุดตันหลอดเลือดแดงบริเวณส่วนปลายที่ขาเกิดภาวะหลอดเลือดแดงอุดตันเฉียบพลัน

และเนื่องจากในยุคปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังเพิ่มจำนวนมากขึ้นดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นที่จะต้องได้รับการเตรียมหลอดเลือดเพื่อที่จะวางแผนฟอกเลือด (หรือฟอกไต) ในอนาคตซึ่งจำเป็นที่จะต้องพบแพทย์ทางด้านศัลยกรรมหลอดเลือดในการเตรียมหลอดเลือดดังกล่าว

อีกประการหนึ่งโรคทางด้านหลอดเลือดที่พบบ่อยขึ้นในยุคปัจจุบันคือเส้นเลือดขอดสาเหตุเกิดจากปัจจัยร่วมกัน เช่น เพศหญิงจะมีความเสี่ยงมากกว่าเพศชาย  การตั้งครรภ์ การรับประทานยาฮอร์โมนบางชนิด กิจกรรมในแต่ละวันที่จำเป็นต้องยืนนาน หรือนั่งนานติดต่อกันหลายชั่วโมง กรรมพันธุ์  ในผู้ป่วยที่เป็นเส้นเลือดขอดอาจจะมีอาการแสดงตามมาได้เช่น เท้าบวมหรือขาบวมโดยเฉพาะเวลาที่นั่งนานหรือยืนนาน เมื่อยหรือตึงที่บริเวณน่อง เป็นตะคริว คันบริเวณผิวหนังที่มีเส้นเลือดขอด เกิดแผลเรื้อรังที่ขาจากการที่มีเส้นเลือดขอด

การรักษาโรคทางด้านหลอดเลือดในยุคปัจจุบันนี้สามารถให้การรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมีความปลอดภัย ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคได้ และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เนื่องจาก ความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์หลอดเลือด รวมถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการรักษาโรคหลอดเลือดซึ่งส่วนใหญ่สามารถรักษาได้โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดแบบดั้งเดิม ไม่มีแผลผ่าตัด ลดการนอนในโรงพยาบาล สามารถกลับไปดำเนินกิจวัตรประจำวันได้รวดเร็ว เช่นการรักษาโรคหลอดเลือดตีบตันด้วยการใช้บอลลูนขยายรอยโรคที่ตีบตัน (Balloonangioplasty) และ/หรือร่วมกับการใส่ขดลวด (Stent), การรักษาเส้นเลือดขอดโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งสามารถใช้เลเซอร์ หรือคลื่นวิทยุ (Radiofrequency Ablation) หรือการฉีดกาวทางการแพทย์ (Venaseal Injection) เป็นต้น

ความเชี่ยวชาญครบทุกด้านส่งผลให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน และสามารถให้การรักษาแบบองค์รวม ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ คือ การรักษาโรคหลอดเลือด, การฟื้นฟูและการป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค ซึ่งตรงตามวัตถุประสงค์ของแนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดที่ครบวงจร และ ได้มาตรฐานที่ เท่าเทียมกับการรักษาในประเทศตะวันตก หรือ แถบยุโรป

ปิยนุช

รศ.พญ.ปิยนุช

พูตระกูล

สาขาวิชาที่เชี่ยวชาญ

ศัลยศาสตร์

ความชำนาญพิเศษ

ศัลยศาสตร์หลอดเลือด

ศูนย์ศัลยกรรมหลอดเลือด

โรคทางด้านหลอดเลือดมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้นร่วมกับมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางด้านหลอดเลือด เช่น ไขมันในเลือดสูง, โรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ ทั้งนี้รวมถึงที่เลิกสูบบุหรี่ไปแล้วหรือขณะกำลังสูบบุหรี่อยู่ก็ตาม สาเหตุทั้งหมดเบื้องต้น จะนำไปสู่การเกิดโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบตัน เช่น เกิดแผลที่เท้าและแผลไม่หายจากการขาดเลือดมาเลี้ยงซึ่งมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียอวัยวะหรือถูกตัดขา, โรคหลอดเลือดแดงคาโรติดที่บริเวณคอตีบซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของการเกิดภาวะสมองขาดเลือดเฉียบพลัน และ โรคหลอดเลือดแดงโป่งพองในช่องท้องและช่องอก ซึ่งถ้าไม่มีการตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง จะเกิดภาวะหลอดเลือดแดงโป่งพองแตก หรือเกิดภาวะลิ่มเลือดในผนังหลอดเลือดแดงที่โป่งพองหลุดไปอุดตันหลอดเลือดแดงบริเวณส่วนปลายที่ขาเกิดภาวะหลอดเลือดแดงอุดตันเฉียบพลัน

และเนื่องจากในยุคปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังเพิ่มจำนวนมากขึ้นดังนั้นผู้ป่วยกลุ่มนี้จำเป็นที่จะต้องได้รับการเตรียมหลอดเลือดเพื่อที่จะวางแผนฟอกเลือด (หรือฟอกไต) ในอนาคตซึ่งจำเป็นที่จะต้องพบแพทย์ทางด้านศัลยกรรมหลอดเลือดในการเตรียมหลอดเลือดดังกล่าว

อีกประการหนึ่งโรคทางด้านหลอดเลือดที่พบบ่อยขึ้นในยุคปัจจุบันคือเส้นเลือดขอดสาเหตุเกิดจากปัจจัยร่วมกัน เช่น เพศหญิงจะมีความเสี่ยงมากกว่าเพศชาย  การตั้งครรภ์ การรับประทานยาฮอร์โมนบางชนิด กิจกรรมในแต่ละวันที่จำเป็นต้องยืนนาน หรือนั่งนานติดต่อกันหลายชั่วโมง กรรมพันธุ์  ในผู้ป่วยที่เป็นเส้นเลือดขอดอาจจะมีอาการแสดงตามมาได้เช่น เท้าบวมหรือขาบวมโดยเฉพาะเวลาที่นั่งนานหรือยืนนาน เมื่อยหรือตึงที่บริเวณน่อง เป็นตะคริว คันบริเวณผิวหนังที่มีเส้นเลือดขอด เกิดแผลเรื้อรังที่ขาจากการที่มีเส้นเลือดขอด

การรักษาโรคทางด้านหลอดเลือดในยุคปัจจุบันนี้สามารถให้การรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมีความปลอดภัย ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคได้ และเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย เนื่องจาก ความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์หลอดเลือด รวมถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ในการรักษาโรคหลอดเลือดซึ่งส่วนใหญ่สามารถรักษาได้โดยไม่ต้องใช้การผ่าตัดแบบดั้งเดิม ไม่มีแผลผ่าตัด ลดการนอนในโรงพยาบาล สามารถกลับไปดำเนินกิจวัตรประจำวันได้รวดเร็ว เช่นการรักษาโรคหลอดเลือดตีบตันด้วยการใช้บอลลูนขยายรอยโรคที่ตีบตัน (Balloonangioplasty) และ/หรือร่วมกับการใส่ขดลวด (Stent), การรักษาเส้นเลือดขอดโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งสามารถใช้เลเซอร์ หรือคลื่นวิทยุ (Radiofrequency Ablation) หรือการฉีดกาวทางการแพทย์ (Venaseal Injection) เป็นต้น

ความเชี่ยวชาญครบทุกด้านส่งผลให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน และสามารถให้การรักษาแบบองค์รวม ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ คือ การรักษาโรคหลอดเลือด, การฟื้นฟูและการป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรค ซึ่งตรงตามวัตถุประสงค์ของแนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดที่ครบวงจร และ ได้มาตรฐานที่ เท่าเทียมกับการรักษาในประเทศตะวันตก หรือ แถบยุโรป

ศูนย์ศัลยกรรมหลอดเลือด

เปิดให้บริการทุกวัน
ศูนย์ศัลยกรรมหลอดเลือด ชั้น B1 โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง
โทรศัพท์ 02-220-7999 ต่อ 80182

แพ็กเกจแนะนำ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ฉุกเฉิน
+66 2220 3899

เรียกรถพยาบาล พร้อมบริการทุกวัน 24 ชม.

โทรหาเรา
+66 2220 7999

พร้อมบริการทุกวัน 24 ชม.

แผนที่โรงพยาบาล
วิธีการเดินทาง